วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553

Japanese Design Today: ความยากของงานยุ่น

คุณรู้จักความเป็นญี่ปุ่นมากแค่ไหน? งานออกแบบพันธุ์ยุ่นเป็นอย่างไร อยากรู้ต้องอ่าน!

ฉันมีเพื่อนสนิทชาวญี่ปุ่นอยู่หลายคน ซึ่งรักกันมาก เห็นหน้ากันทุกวัน สัมผัสลูบไล้กันทุกวัน...
เพื่อนกลุ่มนี้มีชื่อว่า "Casio" ซึ่งฉันมีเก็บไว้ประมาณ 5 เรือนตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จนตอนนี้อายุปาเข้าไป 24 ปีแล้ว
มีนาฬิกาแบบไหนก็ไม่เร้าใจเท่าแบบดิจิตอลเพราะประโยชน์ใช้สอยมาก นี่ยังไม่รวมถึงความอึด กันแดด กันฝน กันลม กันไฟ กันกระแทก รับประกันสามปี... อะไรจะขนาดนั้น!

ฉันเชื่อว่าคนทั่วโลกได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นผ่านผลิตภัณฑ์มากกว่าผ่าน "คนญี่ปุ่น" จริงๆเสียอีก ไม่ว่าจะเป็นรถ เครื่องเขียน นาฬิกา หรือแม้กระทั่งขวดชอสคิกโคเเม็น! เราได้ลูบไล้ ครอบครอง มองหา และนำมาใช้เป็นอันดับหนึ่ง ประเทศเราเสียดุลให้เจ้ายุ่นมากที่สุด อ๊ะ! แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เรานำเจ้ายุ่นมานั่งจับเข่าคุยกันได้อย่างไร

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม ณ หอศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ๆเจ้ายุ่นขนขบวนกันมาถึงหนึ่งร้อยตัวถ้วน!
งานนี้เรียกกันเก๋ๆว่า Japanese Design Today หรือ งานออกแบบญี่ปุ่นของวันนี้

เจ้าขวดซอสคิกโคเเม็นในตำนานกำลังยืนนิ่งอยู่ในตู้... เพื่อนๆของมันอันได้แก่เฟอร์นิเจอร์ รถมอเตอร์ไซค์ ยางลบ โทรศัพท์มือถือ ถูกจัดวางอย่างเรียบง่ายทว่ามีรายละเอียด ทุกตัวยืนอย่างถ่อมตัวอยู่หลังหมายเลขอันไร้ซึ่งคำบรรยาย อยากรู้ต้องอ่านคู่มือเอาเองตามแบบฉบับพี่ยุ่นซึ่งเป็นนักอ่านตัวยง

ฉันตรงไปคุยกับนายคิโคแม็นก่อนเพราะได้ข่าวว่าตั้งแต่เปิดตัวสินค้ามากว่าสี่สิบปี ทางผู้ผลิตไม่เคยเปลี่ยนขวดเลย



ฉัน : นายคิดว่านายพิเศษยังไงถึงอยู่ได้นาน ฮึ!

คิกโคแม็น : คมบังหวะ! วะตะฉิหวะ คิโคแม็นเด็ส (สวัสดีครับผมคือนายคิกโคแม็น) ผมใช้ง่าย เทง่าย หกยาก ตกไม่แตก แถมยังต้นทุนการผลิตต่ำอีกด้วย ว่าแล้วนายคิกโคแม็นก็ผล็อยหลับ ปล่อยให้เราตีความคำพูดเอง

ฉันผงะ.. ไม่รู้จะโต้ตอบยังไง ข้อดีของนายคิกโคแม็นนั้นครบจริงๆด้วย หากถามถึงเรื่องกราฟฟิกก็ไม่ต้องเปลี่ยนให้ยุ่งยากเพราะผู้บริโภคทั่วโลกก็ติดแบรนด์ไปแล้ว ยี่ห้ออื่นๆต่างหากกลับลอกเลียนสีสันและฉลากของยี่ห้อนี้

ผ่านมาที่น้องหนูยางลบ(กอมเม่จัง)ซึ่งหน้าตาเหมือนตัวต่อ สามารถนำมาเล่น มาดัดแปลงได้จนเป็นรูปทรงตามต้องการ ตัวนี้หาได้ยากจากท้องตลาดเพราะเป็นรุ่นคลาสสิก ฉันและเนเน่จัง(พี่สาว)ชาวญี่ปุ่นซึ่งเคยอยู่บ้านเดียวกันเคยแย่งยางลบรุ่นนี้ เคยเอามาต่อเล่นกันแม้ว่าอายุอานามจะเลยยี่สิบไปหลายปี

ฉัน: นี่เธอ! ทำไมเค้าถึงไม่ค่อยผลิตเธอออกมาขายแล้วล่ะ

กอมเม่จัง: เพราะหนูคลาสสิก หนูน่ารัก น่าเล่น แถมยังมีประโยชน์ใช้สอยด้วย!

ว่าแล้วหล่อนก็ทำหน้างอนและผิวปากแบบไม่ยี่หระ.. ฉันเองอยากเปลี่ยนมุมจึงเดินไปอีกฝั่งของงานแล้วยืนคุยกับหนุ่มรูปหล่อจากอนาคต นายคนนี้เป็นมอเตอร์ไซค์แบบเสียบปลั๊ก!




ฉัน: โมะโตะคุงไม่ต้องง้อน้ำมันเลยเหรอ

โมะโตะคุง: ไม่ต้องหรอก ผมมีปลั๊ก!

ว่าแล้วโมะโตะคุงก็หันหน้าแล้วทำปากใบ้ไปที่ก้นเพื่อให้เห็นว่ามีปลั๊กไฟและที่เก็บอย่างเรียบร้อย

ฉัน: อย่างงี้โมะโตะคุงกินไฟเยอะแน่เลยสิ

โมะโตะคุง: นักออกแบบกำลังปรับปรุงผมอยู่ครับ! อีกสักสามปีหรือห้าปีคงนำออกมาขายได้รอกันหน่อยนะครับ

ว่าแล้วโมะโตะคุงก็หันไปโพสท่าให้ชาวประชาถ่ายรูป.. คนดังก็อย่างนี้แหละ!

งานยุ่นที่ดูเรียบง่าย อธิบายแล้วเข้าใจนั้นแท้จริงมีความยากซ่อนอยู่ เริ่มจากการคิดคอนเส็ปท์
สังเกตได้ว่าตัวละครทั้งสามที่ฉันเข้าไปคุยด้วยนั้นบุคลิกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะนั่นขึ้นอยู่กับเจตนาและประโยชน์ใช้สอย ลุงคิกโคแม็นถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรับรองสินค้าที่มีอยู่แล้วจึงต้องมีปัจจัยด้านฟังก์ชั่นและความเรียบง่ายเป็นหลักสำคัญ

น้องกอมเม่นั้นไม่จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาแต่นักออกแบบได้ใส่ความเป็น "ญี่ปุ่น" เข้าไปเต็มกระแสเลือด
เธอมีความขี้เล่น และเรียบง่ายในตัวเดียว เธอกระตุ้นให้ผู้ใหญ่กลายเป็นเด็ก เธอมีหลากหลายสีให้สะสม

ท้ายสุดคือโมะโตะคุง เป็นชายหนุ่มจากอนาคตที่มีวิญญาณญี่ปุ่นเต็มร้อย เขามาเพื่อกู้โลกจากวิกฤตน้ำมันและวิกฤตคมนาคม

ผลิตภัณฑ์ทั้งสามชิ้น สามแบบ สามเจตนารมณ์ นั้นมีที่มาเดียวกันคือมาจากความยากลำบาก
ความยากของงานยุ่นอยู่ที่วิธีการคิด งานยิ่งเรียบก็ยิ่งยาก ยิ่งล้ำยุคก็ยิ่งต้องใช้ทุนสูง ยิ่งต้องใช้บุคลากรที่ประสิทธิภาพระดับโลกไม่ใช่รู้แค่งูๆปลาๆ ต้องรู้ครบ รู้รอบและมีทัศนคติที่เปิดกว้าง

งานออกแบบของญี่ปุ่นนั้นมีความน่ารักที่คนทั่วโลกยอมรับ นั่นคือ เรียบง่าย ขี้เล่น และล้ำยุค

สามสิ่งนี้เองที่ทำให้งานยุ่นกลายเป็นเงินและเป็นวิวัฒนาการที่วงการออกแบบไทยควรเอาเยี่ยงอย่างเชิงวิธีการ ไม่ใช่การลอกอย่างที่บริษัทส่วนใหญ่ทำกัน!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น